ปลานิล Oreochromis nilotica เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่งซึ่งมีคุณค่าทางเศรษฐกิจนับตั้งแต่ปี 2508 เป็นต้นมา สามารถเลี้ยงได้ในทุกสภาพ การเพาะเลี้ยงในระยะเวลา 8 เดือน - 1 ปีสามารถเจริญเติบโตได้ถึงขนาด 500 กรัม เนื้อปลามีรสชาติดี มีผู้นิยมบริโภคกันอย่างกว้างขวาง ขนาดปลานิลที่ตลาดต้องการจะมีน้ำหนักตัวละ 200-300 กรัม จากคุณสมบัติของปลานิลซึ่งเลี้ยงง่าย เจริญเติบโตเร็ว แต่ปัจจุบันปลานิลพันธุ์แท้ค่อนข้างจะหายาก เพื่อให้ได้ปลานิลพันธุ์ดีกรมประมงจึงได้ดำเนินการ ปรับปรุงพันธุ์ปลานิลในด้านต่าง ๆ อาทิเจริญเติบโตเร็ว ปริมาณความดกของไข่สูง ให้ผลผลิตและมีความต้านทานโรคสูง เป็นต้น ดังนั้น ผู้เลี้ยงปลานิลจะได้มีความมั่นใจในการเลี้ยงปลานิลเพื่อเพิมผลผลิตสัตว์น้ำให้เพียงพอต่อการบริโภคต่อไป

วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

การเลี้ยงปลานิลในกระชัง


ปัจจุบันมีการส่งออกปลานิลกันมากขึ้น ในรูปของปลาแช่แข็งทั้งตัว โดยเฉพาะการแปรรูปเป็นปลาแล่เนื้อแช่แข็ง ประเทศที่นำเข้า เช่น สหรัฐอเมริกา อิตาลี ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย เป็นต้น แต่มีข้อแม้ว่าปลาที่เลี้ยงได้จะต้องมีขนาดโต น้ำหนักประมาณ 400 กรัมขึ้นไป และไม่มีสารตกค้างในเนื้อปลา และข้อกีดกันทางการค้าของบางประเทศ เกี่ยวกับการใช้ฮอร์โมนในการเปลี่ยนเพศปลา กลิ่นสาบหรือกลิ่นโคลนในตัวปลานิลที่เลี้ยงในบ่อดินมักจะไม่เกิดขึ้นกับการ เลี้ยงปลานิลในกระชังที่มีการเลี้ยงแบบพัฒนาดังที่กล่าวมา.เราก็ได้รู้เกี่ยวกับประวัติของปลานิลมาแล้วมาลองศึกษาวิธีการเลี้ยงปลานิลในกระชังกัน ปลาที่จะใช้เลี้ยง เป็นปลานิล cp หรือปลานิลแดงซึ่งมีการเติบโตเร็ว และมีความต้านทานต่อโรคเป็นอย่างดีการเตรียมการเพื่อเลี้ยงปลานิลในกระชัง1. การเตรียมบ่อหรือกระชัง ส่วนมากจะนิยมใช้เป็นรูปแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าซึ่งจะง่ายต่อการจัดการมากกว่ารูปแบบอื่น2. การจัดการคุณภาพน้ำ ควรตรวจสอบแหล่งน้ำในเรื่องปริมาณน้ำและความลึกที่เพียงพอต่อการจัดวางกระชังตลอดการเลี้ยง และควรมีค่าพีเอช (pH) อยู่ระหว่าง 7.5-8.5 3.การขนส่งลูกพันธุ์ปลานิล ควรใช้เวลาในการขนส่งไม่เกิน 3 ชั่วโมง ระหว่างขนส่งควรรักษาระดับอุณหภูมิให้คงที่ เช่นใช้กระสอบรองพื้นรถ แวะปั๊มน้ำมันเพื่อฉีดน้ำให้อุณหภูมิของน้ำในถุงเย็นลง 4. การปล่อยลูกพันธุ์ปลานิล ควรเลือกปล่อยเวลาเช้ามืด หรือช่วงเย็น5. การให้อาหารปลา ควรหว่านกระจายให้ทั่วกระชัง และควบคุมปริมาณให้เหมาะสม6. หมั่นสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบๆกระชัง เช่นคุณภาพน้ำ อุณหภูมิ เป็นต้น7.ทำความสะอาดที่กั้นอาหาร (มุ้งฟ้า) 1 ครั้ง /สัปดาห์ และตรวจเช็ครอยรั่วของกระชังสัปดาห์ละ 1 ครั้ง 8.ทำการสุ่มเช็คน้ำหนักของปลานิลทุก 15 วันเพื่อตรวจดูการเจริญเติบโตของปลาเงินลงทุนเพื่อใช้เลี้ยงปลานิลต่อกระชัง1. ค่ากระชังเพื่อเลี้ยงปลา ขนาด 7x15x2.5 เมตร ราคาโดยประมาณ 2,500 บาท2. ค่าไม้ลำสำหรับปักกระชัง 4 ต้น ราคาต่อต้น 53 บาท 212 บาท3.ค่าตัวปลานิล ขนาด 3 ตัวต่อกิโล ใช้กระชังละ 285 โล (850ตัว) 9,900 บาท (ราคานี้ขึ้นอยู่กับขนาดของตัวปลา)4. ค่าอาหารปลา ไฮเกร็ด 9951 จำนวน 25 ลูกๆละ 550 13,750 บาท5. น้ำยาฆ่าเชื้อ โอแลน 1 ขวด 370 บาทรวมเงินลงทุนต่อกระชังโดยประมาณ 26,732 บาทระยะเวลาการเลี้ยงปลานิลในกระชัง ระยะเวลาการเลี้ยงขึ้นอยู่กับการเจริญเติบโตของปลา และขนาดปลาที่เราเริ่มปล่อย หากเราใช้ปลานิลขนาด 3 ตัวต่อกิโลกรัม (333 กรัมต่อตัว) ระยะเวลาการเลี้ยงจะอยู่ที่ไม่เกิน 3 เดือน)
ที่มาhttp://th.88db.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ที่มาของข้อมูล

การเพาะเลี้ยงปลานิล
เอกสารคำแนะนำ
ฝ่ายเผยแพร่ สำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการประมง
กรมประมง